- การอักเสบของรูขน และต่อมไขมัน
- ร่างกายผลิตน้ำมันที่ชั้นผิวหนังมากเกินไป
- เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน
- การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตอาจทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
- การผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป
- การล้างหน้าไม่สะอาด เกิดการอุดตันจากเครื่องสำอาง
- การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดสิว
- แพ้อากาศร้อน หรือมีความชื้นสูง
- เครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย
- ทานอาหารที่มีไขมันสูง และไม่ทานผัก
สิวเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อย โดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาว เพศชายมากกว่าเพศหญิง แต่บางรายหลังจากวัยรุ่นไปแล้วก็ยังพบมีสิวเป็นๆ หายๆ ได้ต่อเนื่องสิวคือโรคผิวหนังที่มีอาการเป็นตุ่มเล็กๆ กระจายอยู่บน
- บริเวณใบหน้า
- บริเวณหน้าอก
- บริเวณหลัง
- บริเวณคอ
- บริเวณแขน หรือขา
หรือจะพูดอีกอย่างคือ สิว สามารถเกิดได้ทุกที่ในบริเวณร่างกายของเรา หลายๆ คนอาจจะเป็นเพียงแค่ที่ใดที่หนึ่งหรือในบางคนที่เป็นหนักมากๆ นั้น อาจจะเป็นทั้งตัว ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ โดยเฉพาะสิวหัวช้าง นั้นคือการอักเสบใต้ผิวหนังทำให้ผู้ที่เป็นทรมานอย่างมากจากการอักเสบนั้น
สิว คือ การอักเสบของหน่วยรูขนหรือเรียกอีกอย่างว่ารูขุมขน และต่อมไขมัน โดยมากมักเป็นบริเวณหน้า คอ และลำตัวส่วนบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่อย่างหนาแน่น สิวมักปรากฎอาการในช่วงวัยรุ่น ในผู้หญิงช่วงอายุ 14-17 ปี และในช่วงอายุ 16-19 ปีสำหรับผู้ชาย และมักหายไปในช่วงอายุ 20-25 ปี แต่ในบางคนอาจเป็นๆ หายๆ จนอายุ 40 ปี ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดสิว
อาการแสดงของสิว
สิวนั้นมีหลายประเภทหลายระยะ และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สิวหัวเปิดสีดำ สิวอักเสบ ซึ่งหากเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง คนไทยนิยมเรียกกันว่าสิวหัวช้าง แยกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ
- สิวไม่อักเสบ ซึ่งแบ่งได้เป็น
- สิวหัวเปิด ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ ตรงกลางมีสีดำ
- สิวหัวปิด ลักษณะเป็นตุ่มนูนสีผิวหนังปกติ
- สิวอักเสบ ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงหรือตุ่มหนอง
- โดย มักพบสิวอยู่เยอะบริเวณ ใบหน้า หน้าอกและหลัง
สิวเกือบทั้งหมด เมื่อหายแล้วจะกลายเป็นรอยแดงและดำซึ่งจะจางหายไปได้เอง ในผู้ป่วยผิวคล้ำมักจะทิ้งรอยดำอยู่นาน แต่ในผู้ป่วยเป็นสิวชนิดรุนแรงหรือชอบบีบหรือแกะสิวอาจเกิดแผลเป็นถาวรได้
โรคสิว สาเหตุเกิดจาก
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งมักเพิ่มมากขึ้นในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนังบริเวณรูเปิดของรูขุมขนและต่อมไขมันให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเกิดการอุดตันของรูขุมขน นอกจากนี้ฮอร์โมนแอนโดรเจนยังทำให้ต่อมไขมันทำงานหลั่งสารไขมันออกมาสู่ท่อรูขุมขนมากขึ้น การอักเสบของต่อมไขมันคือต้นเหตุของการเกิดสิว ซึ่งมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องหลายอย่าง ทั้ง
- อาหาร
- เครื่องสำอาง
- ความสะอาด
- ฮอร์โมน
นั่นทำให้ สิวมักเกิดในช่วงวัยรุ่นเป็นหลักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย สำหรับผู้หญิงบางคนในช่วงก่อนมีประจำเดือนก็จะเกิดอาการสิวเห่อขึ้นได้เมื่อรูขุมขนอุดตันร่วมกับมีสารไขมันในท่อรูขุมขนเพิ่มมากขึ้น จะกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียที่กินสารไขมันเป็นอาหารเพิ่มมากขึ้นในรูขน รูขุมขนพองบวมขึ้นเกิดเป็นสิวอุดตัน เกิดกระบวนการอักเสบและเป็นสิวอักเสบตามมา
การควบคุมปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือการป้องกันไม่ให้สิวเกิดการลุกลามโดยการปฏิบัติตัว ดังนี้
- ทำความสะอาดร่างกาย และ ใบหน้าทุกวัน เช้า – เย็น
- ล้างหน้าอย่างเบามือ
- ไม่ขัดผิวหรือล้างหน้าบ่อยเกินไป
- เนื่องจากอาจทำให้สิวลุกลามหรืออักเสบมากกว่าเดิม
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว
- ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งหรือคำแนะนำตามเอกสารกำกับยาเท่านั้น
- ยังไม่มีการทดลองว่าอาหารเป็นสาเหตุของการเกิดสิว แต่มีรายงานว่า
- อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง (glycemic index)
- อาหารเสริมบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่ม whey protein
- กระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะ
- เครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำมัน
- ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ปราศจากน้ำมัน
- ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้หน้ามัน
- พักผ่อนให้เพียงพอเป็นการช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่
- ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ
- ควบคุมอารมณ์อย่าให้เครียดมากเกินไป
- ออกกำลังกายเพื่อให้ระบบภายในร่างกายดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงแดดจัด
- เนื่องจากยาบางชนิดอาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง
- หากใช้ยาประเภทนี้ควรทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเป็นประจำทุกวัน
โดยส่วนมากสิวมักหายเองโดยธรรมชาติ แต่ถ้าส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันหรือความมั่นใจ สิวสามารถรักษาได้หลายแบบเช่นกัน ตั้งแต่การกดสิว ฮอร์โมน หรือยาทา และการเลเซอร์ ซึ่งใช้เวลาและการเยียวยาแตกต่างกันออกไป
รอยแผลเป็นจากสิวมีทั้งแบบเป็นหลุมซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างคอลลาเจนมาทดแทนน้อยเกินไป และแบบรอยนูนที่เกิดจากการที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนมากจนเกินไป โดยเฉพาะการเกิดคีลอยด์ ที่สามารถใหญ่กว่าขนาดสิวและขยายใหญ่ขึ้นได้เรื่อย หากมีรอยสิว ให้รีบรักษารอยสิวเพื่อลดรอยสิวทันที การปล่อยไว้นานอาจทำให้ปัญหาแย่ลงหรือใช้ระยะเวลานานขึ้นในการรักษาอาจเป็นเดือนหรือเป็นปี แสงแดดมีส่วนทำให้รอยสิวเข้มขึ้นได้ ดังนั้นผู้ที่มีปัญหารอยสิวควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกนอกบ้านหรือก่อนทำกิจกรรมการแจ้ง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษา ว่าควรใช้ครีมกันแดดแบบไหนถึงจะเหมาะกับสภาพผิว
เทคโนโลยีการรักษา
ที่เดอซีเคร็ต เราเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด และมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ผู้เข้ารับบริการจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูและรักษาอย่างมีประสิทธิ์ภาพและเห็นผลดีที่สุด
การดูแลอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าที่มาใช้บริการที่เดอซีเคร็ตจะได้รับการดูแลอย่างพิเศษ เรามีพนักงานค่อยติดตามผลการรักษา รวมถึงบริการให้คำแนะนำปรึกษาก่อนใช้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ลูกค้าสามารถปรึกษาขั้นตอนการรักษา งบประมาณ ต่าง ๆ จากพนักงานได้โดยตรง
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่เดอะซีเคร็ต เรามีผู้เชียวชาญเฉพาะด้าน ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรเฉพาะทางจากมหาวิทยาลัยระดับชั้นนำจากต่างประเทศ และประสบการณ์ทำงานกว่า 20 ที่ ทีมผู้เชี่ยวชาญยังมีการอบรมเพื่อพัฒนาความรู้อย่างสม่ำเสมอ
สถานที่ให้บริการ
เดอซีเคร็ต คลีนิค อยู่ติดกับโลตัส ประชาชื่น มีที่จอดรถรองรับสำหรับลูกค้าที่ขับรถมาเอง ภายในคลีนิคยังมีพื้นที่รองรับลูกค้าที่มานั่งรอรับบริการ พร้อมเครื่องดื่มไว้บริการด้วยเช่นกัน สอบถามเส้นทาง โทร 02-9102955